เดือนมิถุนายนของทุกปี คือ ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของผู้มีความหลากหลายทางเพศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ปี 2025 นี้ไม่เพียงแต่เป็นการจัดงานพาเหรดที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามคำดูถูก ที่เคยเป็นปมของใครหลายคน มาสู่การยืนหยัดในความภาคภูมิใจในตัวตน อย่างสง่างาม

Pride Month คืออะไร?
Pride Month มีต้นกำเนิดจากเหตุการณ์ Stonewall Riots เมื่อเดือนมิถุนายนปี 1969 ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นการลุกฮือของกลุ่ม LGBTQ+ ต่อต้านการกดขี่จากเจ้าหน้าที่รัฐ จุดเริ่มต้นนั้นได้จุดประกายให้เกิดขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของคนหลากหลายทางเพศในระดับโลก
เดือนมิถุนายนจึงถูกกำหนดให้เป็นเดือนแห่ง Pride ที่หมายถึง ความภาคภูมิใจในตัวตน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีรสนิยมทางเพศแบบใด หรือมีอัตลักษณ์แบบไหน
Pride ไม่ได้หมายถึง แค่พาเหรดสีรุ้ง หรือปาร์ตี้เท่านั้น แต่มันคือ
- การต่อสู้เพื่อความเสมอภาคทางกฎหมาย
- การยืนยันสิทธิของตนในที่สาธารณะ
- การรักษาความหลากหลายทางวัฒนธรรม
- การเยียวยาความเจ็บปวดจากการถูกเลือกปฏิบัติ
Pride Month ในประเทศไทย จากชายขอบสู่เวทีใหญ่
ประเทศไทยมีประวัติของความหลากหลายทางเพศที่ยาวนาน และแม้ว่าในทางสังคมจะดูเหมือนเปิดกว้าง แต่ในความเป็นจริง กลุ่ม LGBTQ+ ยังเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งการเลือกปฏิบัติ ความไม่เท่าเทียมทางกฎหมาย และการตีตราทางวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การจัดงาน Pride ในไทยกลับกลายเป็นกระแสที่เติบโตขึ้นอย่างมีพลัง โดยเฉพาะในปี 2022 ที่กรุงเทพฯ จัด Pride Parade อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และนับจากนั้น เมืองต่างๆ ทั่วไทยก็เริ่มร่วมขบวน
- เชียงใหม่
- ขอนแก่น
- ภูเก็ต
- พัทยา
- หาดใหญ่
- นครศรีธรรมราช
- และล่าสุดในปี 2025: อุดรธานี และสุราษฎร์ธานี ก็เข้าร่วมจัดงานด้วย
การขยายพื้นที่จัดงานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสีสัน แต่คือ พื้นที่ปลอดภัย ที่ให้คนหลากหลายเพศมีเวทีในการแสดงออกอย่างไม่ต้องกลัวสายตาใคร
ก้าวข้ามคำดูถูก เมื่ออดีตกลายเป็นพลัง
“ตุ๊ด, แต๋ว, เบี่ยงเบน, ไอ้ทอม, กระเทยควาย” — คำเหล่านี้เคยถูกใช้ทำร้ายจิตใจของใครหลายคนในวัยเด็ก ในห้องเรียน ในที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งในบ้านของตนเอง
หลายคนต้องเติบโตมากับคำดูถูก หัวเราะเยาะ หรือแม้กระทั่งความรุนแรงจากครอบครัวและชุมชน แต่ใน Pride Month นี้ พวกเขากำลังเปลี่ยนคำเหยียด ให้กลายเป็นเกียรติ ในแบบของตนเอง
ความคืบหน้าด้านสิทธิในปี 2025
ในปี 2025 ประเทศไทยได้ก้าวหน้าในด้านสิทธิของ LGBTQ+ อย่างมีนัยสำคัญ เช่น
- การผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality) ซึ่งเปิดโอกาสให้คนรักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมาย
- การผลักดัน พ.ร.บ. รับรองเพศ (Gender Recognition Law) ให้คนข้ามเพศสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และรับสิทธิตามเพศสภาพได้
- การรณรงค์สิทธิแรงงานสำหรับ LGBTQ+ โดยเฉพาะในภาคเอกชน เช่น บริษัทที่มีนโยบายไม่เลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องต่อสู้ต่อไป เช่น การเข้าถึงสิทธิมารดา/บิดาในการอุ้มบุญ สิทธิการรับบุตรบุญธรรม และการคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติในพื้นที่ชนบท
Pride ไม่ใช่แค่เมืองหลวง ความสำคัญของ Pride ท้องถิ่น
หนึ่งในพลังที่สำคัญของ Pride 2025 คือ การกระจายตัวของการเคลื่อนไหวไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ
Pride ที่ขอนแก่น เชียงใหม่ หรือสุราษฎร์ธานี คือ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในระดับรากหญ้า ซึ่งต่างจากการเฉลิมฉลองในเมืองใหญ่ที่มักมีแบรนด์หรือองค์กรใหญ่ร่วมมือ
ในท้องถิ่น การจัด Pride มักดำเนินการโดยกลุ่มอาสาสมัคร นักเรียน นักศึกษา องค์กรภาคประชาสังคม และชุมชน LGBTQ+ เอง
นี่คือการ reclaim พื้นที่ของตน — เพื่อบอกว่า เราอยู่ที่นี่ เรามีตัวตน และเรามีสิทธิ
สีรุ้งไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่คือ การเมือง
หลายคนอาจมอง Pride เป็นงานรื่นเริง แต่ในความเป็นจริง Pride คือ
- การยืนหยัดต่ออำนาจที่เคยกดทับ
- การเรียกร้องสิทธิอย่างสันติ
- การรวมพลังของชุมชนให้เป็นรูปธรรม
- การกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย
ในประเทศไทย Pride Month จึงเป็นมากกว่าเทศกาล แต่คือการเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่เริ่มจากการเปลี่ยนทัศนคติ
บทบาทของคนรุ่นใหม่
กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และโซเชียลมีเดีย มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการผลักดันประเด็น LGBTQ+
- การจัดเดินพาเหรดโดยกลุ่มนิสิตนักศึกษา
- การใช้ TikTok, IG, Twitter ปลุกกระแสความรู้
- การผลักดันประเด็น LGBTQ+ เข้าสู่พื้นที่การเมือง เช่น การอภิปรายในสภาเยาวชน
นี่คือความหวังใหม่ที่บอกว่าอนาคตของความเท่าเทียมในไทยกำลังถูกเขียนโดยคนรุ่นที่ไม่ยอมจำนน
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
- เปิดใจคุยกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในชายรักชาย ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
- เสี่ยงแค่ไหน? Chemsex กับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Pride Month 2025 ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การเดินพาเหรด หรือการโบกธงสีรุ้งในเมืองใหญ่ แต่มันคือการเดินทางของผู้คนที่เคยถูกเหยียด เคยเจ็บปวด เคยถูกทำให้รู้สึกผิด ที่เกิดมาในแบบที่ตัวเองเป็น ซึ่งในปีนี้ เราได้เห็นการเฉลิมฉลองที่ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่เป็นการลุกขึ้นของผู้คนที่พร้อมบอกว่า…“ฉันไม่ได้ผิด และฉันก็ไม่ขอโทษกับสิ่งที่ฉันเป็น”
เอกสารอ้างอิง
- Equaldex. LGBT Rights in Thailand. ฐานข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายและสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.equaldex.com/region/thailand
- Outright International. Thailand. รายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของ LGBTQ+ ในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://outrightinternational.org/our-work/asia/thailand
- Human Rights Watch. Thailand: Landmark Step Toward Marriage Equality. รายงานการเดินหน้าสู่การสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.hrw.org/news/2024/06/27/thailand-landmark-step-toward-marriage-equality
- วิกิพีเดีย. สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย. ข้อมูลภาพรวมของสถานะสิทธิ กลุ่ม LGBTQ+ และการเคลื่อนไหวในสังคมไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://th.wikipedia.org/wiki/สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ. ความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย. บทความและแนวนโยบายเกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศ. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.nhrc.or.th/ArticleView.aspx?ArticleID=17917