ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Chemsex กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในชุมชนชายรักชาย (MSM) และกลุ่มที่ชื่นชอบปาร์ตี้ที่เกี่ยวข้องกับเซ็กซ์ Chemsex ถูกมองว่าเป็นทั้ง วิธีเพิ่มความสุขทางเพศ และพื้นที่ของการปลดปล่อยทางอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็มี ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Chemsex คืออะไร?
Chemsex (Chemical Sex) คือ การใช้สารเสพติดบางประเภทระหว่างมีเพศสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นความต้องการทางเพศ ยืดระยะเวลา และเพิ่มความสุข การใช้สารเคมีเหล่านี้มักเกิดขึ้นในปาร์ตี้เซ็กซ์ แบบกลุ่ม (Group Sex) หรือการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน ทำให้เป็นพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Chemsex พบมากใน ชุมชนเกย์ ไบเซ็กชวล และชายรักชาย (MSM – Men who have Sex with Men) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการรวมตัวในปาร์ตี้หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์แบบเปิด (Open Relationship)
สารเสพติดที่พบใน Chemsex มีอะไรบ้าง?
สารเสพติดที่พบใน Chemsex มักเป็น สารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้รู้สึก เร้าอารมณ์ มีพลังงานสูงขึ้น และลดการยับยั้งชั่งใจ สารที่ใช้บ่อย ได้แก่
- GHB/GBL (Gamma-Hydroxybutyrate/Gamma-Butyrolactone)
- เป็นสารที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม ลดความเขินอาย และเพิ่มความต้องการทางเพศ
- อันตราย: ใช้เกินขนาดอาจทำให้หมดสติหรือเสียชีวิตได้
- มักเรียกว่า “G” หรือ “Gina” ในหมู่คนที่เล่น Chemsex
- Crystal Meth (Methamphetamine หรือ ไอซ์)
- เป็นสารกระตุ้นที่ทำให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้นและมีพลังงานทางเพศสูง
- อันตราย: เพิ่มความเสี่ยงในการมีเซ็กซ์แบบไม่ป้องกัน เนื่องจากทำให้การตัดสินใจลดลง
- มักเรียกว่า “Tina” หรือ “Meth”
- Mephedrone (“Meow Meow”)
- เป็นสารที่กระตุ้นประสาทและเพิ่มความต้องการทางเพศ คล้ายกับ MDMA หรือ Ecstasy
- อันตราย: อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินไป หรือเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง
- มักเรียกว่า “Meph” หรือ “Drone”
- Ketamine (“K” หรือ “Special K”)
- เป็นยาสลบที่ใช้ในทางสัตวแพทย์ แต่ถูกนำมาใช้ใน Chemsex เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
- อันตราย: ใช้ในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดภาวะหลุดออกจากความเป็นจริง (Dissociation) หรือสูญเสียความทรงจำ
Chemsex เพิ่มความเสี่ยงติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และ เอชไอวีอย่างไร?
สารเหล่านี้มีผลทำให้เกิด ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น ลดการยับยั้งชั่งใจ และทำให้รู้สึกเพลิดเพลินนานขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเอชไอวี
- ขาดการป้องกัน (Unsafe Sex) สารเสพติดที่ใช้ใน Chemsex ทำให้คนตัดสินใจน้อยลงหรือไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมได้ ส่งผลให้มีโอกาส ไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือ ไม่ใช้ PrEP หรือ PEP เพื่อป้องกันเอชไอวี
- มีคู่นอนหลายคน (Multiple Partners) Chemsex มักเกิดขึ้นในปาร์ตี้หรือการพบปะกันแบบกลุ่ม ทำให้มี คู่นอนหลายคนในช่วงเวลาเดียวกัน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งเพิ่มโอกาสแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- เพศสัมพันธ์ที่รุนแรง (Rough Sex) และการใช้ของเล่นทางเพศ สารเสพติดอาจทำให้ผู้เข้าร่วม Chemsex ไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรงมากขึ้น เพิ่มโอกาสเกิดบาดแผลหรือรอยถลอกในเยื่อบุอวัยวะเพศและทวารหนัก ซึ่งเป็นทางเข้าสำหรับเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม และไวรัสตับอักเสบบี และซี
- การใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์ร่วมกัน (Sharing Needles & Drug Equipment) บางคนอาจใช้สารเสพติดผ่านการฉีดเข้าเส้น (Slamming) ซึ่ง การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นวิธีการแพร่เชื้อเอชไอวี และไวรัสตับอักเสบที่มีความเสี่ยงสูงมาก

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยในกลุ่มที่มีพฤติกรรม Chemsex
- HIV (เอชไอวี) เชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน หากไม่รักษาสามารถพัฒนาไปเป็นเอดส์ (AIDS) ได้
- ซิฟิลิส (Syphilis) มีแผลที่อวัยวะเพศหรือทวารหนัก ระยะลุกลามอาจส่งผลต่อระบบประสาท
- หนองในแท้ (Gonorrhea) และหนองในเทียม (Chlamydia) อาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะแสบขัด หนองไหลจากอวัยวะเพศ หรืออาการทางทวารหนัก
- ไวรัสตับอักเสบบีและซี (Hepatitis B & C) ติดต่อผ่านเลือดและของเหลวในร่างกาย เสี่ยงสูงหากใช้เข็มร่วมกัน
- HPV (Human Papillomavirus) ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศและมะเร็งทวารหนักในกลุ่ม MSM
จะลดความเสี่ยงของ Chemsex และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้อย่างไร?
- ใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น เพราะถุงยางอนามัย ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรใช้คู่กับสารหล่อลื่นชนิด น้ำ (Water-based) หรือซิลิโคน (Silicone-based) เพื่อลดโอกาสเกิดบาดแผล
- ใช้ PrEP หรือ PEP ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
- PrEP ยาต้านไวรัสที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ก่อนมีพฤติกรรมเสี่ยง
- PEP ยาต้านไวรัสที่ใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ตรวจเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นประจำ โดยการตรวจเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทุก 3-6 เดือนเป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถตรวจได้ฟรีที่ Love2Test.org หรือคลินิกมิตรภาพ
- หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หากมีการใช้สารเสพติดผ่านทางฉีด ควรใช้เข็มสะอาดและไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
- รับวัคซีนป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางชนิด วัคซีน HPV และไวรัสตับอักเสบบี ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ร้ายแรง
- ใช้แอปหรือบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ Chemsex บางองค์กรมีบริการให้คำปรึกษาสำหรับคนที่มีพฤติกรรม Chemsex และต้องการลดความเสี่ยง เช่น บริการออนไลน์ของ Love2Test และสายด่วนสุขภาพทางเพศ
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
- ออกแบบการป้องกันเอชไอวีด้วยตัวคุณเอง ปลอดภัยในแบบที่เหมาะกับชีวิตคุณ
- Doxy-PEP: นวัตกรรมป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่คุณควรรู้
Chemsex อาจสร้างประสบการณ์ที่สนุกและตื่นเต้น แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเอชไอวี หากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดี การรู้จัก ใช้ถุงยางอนามัย, PrEP/PEP, ตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง จะช่วยให้คุณปลอดภัยและสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวล
เอกสารอ้างอิง
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Chemsex and HIV: Understanding the risks and prevention strategies. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/hiv/basics/prevention.html
- World Health Organization (WHO). Global guidance on harm reduction and HIV prevention in chemsex and drug use settings. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/publications/i/item/9789240031593
- UNAIDS. Chemsex and its impact on the spread of HIV and sexually transmitted infections among MSM. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.unaids.org/en/resources/documents/2022/Chemsex_report
- มูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทย (Thai Red Cross AIDS Research Centre). ผลกระทบของ Chemsex ต่อสุขภาพทางเพศในชุมชน LGBTQ+. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.trcarc.org/th/news/chemsex-and-hiv
- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ความเสี่ยงของ Chemsex และแนวทางป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/chemsex_sti_prevention.pdf



