ไวรัสตับอักเสบซีคืออะไร?

ไวรัสตับอักเสบซีคืออะไร?

ไวรัสตับอักเสบซี คือโรคเกี่ยวกับตับที่เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสคือเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV)
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบเฉียบพลันเป็นภาวะเจ็บป่วยระยะสั้นที่เกิดขึ้นประมาณ 6 เดือนหลังจากที่ผู้นั้นสัมผัสเชื้อไวรัสตับอักเสบซีครั้งแรก โดยปกติ การติดเชื้อแบบเฉียบพลันจะไม่กลายเป็นการติดเชื้อแบบเรื้อรังเสมอไป
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีชนิดเรื้อรังเป็นภาวะเจ็บป่วยระยะยาวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อยังคงมีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกายของผู้นั้น ภาวะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีสามารถคงอยู่ได้ตลอดชีวิตและนำไปสู่สภาวะที่เป็นอันตรายต่อตับรวมถึงภาวะตับแข็งหรือมะเร็งตับ

การแพร่เชื้อ

  • เชื้อไวรัสตับอักเสบซีสามารถแพร่เชื้อผ่านทางเลือด ส่วนใหญ่มักจะแพร่เชื้อเชื้อผ่านการใช้ยาเสพติดชนิดฉีดผ่านการใช้อุปกรณ์การฉีดร่วมกัน
  • สถานที่ให้บริการด้านสุขภาพซึ่งมีการนำเอาอุปกรณ์การแพทย์เช่นกระบอกฉีดยาหรือเข็มฉีดยามาใช้ซ้ำหรือมีการฆ่าเชื้อที่ไม่สะอาดพอ
  • รับเลือดและผลิตภัณฑ์เลือดที่ติดเชื้อ
  • เชื้อนี้สามารถแพร่เชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้หรือสามารถผ่านจากมารดาที่ติดเชื้อไปสู่ทารกแต่รูปแบบการแพร่เชื้อในลักษณะเหล่านี้เกิดขึ้นได้น้อย

อาการแสดงของไวรัสตับอักเสบซี

ไวรัสตับอักเสบซี ระยะฟักตัวอยู่ที่ระหว่าง 2 สัปดาห์ถึง 6 เดือน หลังจากเริ่มมีการติดเชื้อซึ่งคนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80) มักไม่แสดงอาการใดๆ หากมีอาการแสดงอาจมีอาการดังนี้: มีไข้,อ่อนเพลีย, เบื่ออาหาร, คลื่นไส้,ปวดท้อง, อาเจียน, ปัสสาวะมีสีเข้ม,อุจจาระสีซีด, ปวดตามข้อ, ตัว-ตาเหลือง

การรักษาไวรัสตับอักเสบซี

การรักษาไวรัสตับอักเสบซี

ประมาณร้อยละ 15 ถึงร้อยละ 25 ของผู้ที่ติดเชื้อแบบเฉียบพลันสามารถขจัดการติดเชื้อนี้ออกจากร่างกายได้ การติดเชื้อเฉียบพลันและการติดเชื้อเรื้อรังนั้นสามารถรักษาได้โดยใช้ยาชนิดเดียวกัน

การรักษาที่เคยเป็นแบบมาตรฐานคือการใช้ยาหลายชนิดร่วมกันซึ่งรวมถึงอินเตอร์เฟอร์รอนซึ่งเป็นยาชนิดฉีดโดย ให้ยาเป็นระยะเวลา 6 – 12 เดือน ซึ่งการรักษานี้ผู้ป่วยมักไม่สามารถทนต่อยาได้ดีนักและผู้ป่วยส่วนใหญ่มักรักษาไม่หาย สำหรับการรักษาแบบใหม่ที่ใช้เฉพาะยาชนิดรับประทานนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าและผู้ป่วยสามารถทนต่อยาได้ดีกว่าซึ่งสามารถรักษาการติดเชื้อให้หายขาดได้ใน 3 – 6 เดือนแต่ยามีราคาแพงซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่สามารถจ่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่อาศัย

การป้องกันไวรัสตับอักเสบซี

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบเฉียบพลันนั้นโดยมากไม่แสดงอาการ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อแล้ว ถึงแม้ผู้ที่ติดเชื้อไม่มีอาการแสดงใดๆเลยก็ตามแต่ผู้ที่ติดเชื้อยังคงสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี นี่คือเหตุผลของการป้องกันโดยการเน้นไปที่การลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในสถานที่ให้บริการด้านสุขภาพ ในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงและการติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี จึงมีความสำคัญไม่แพ้กับการตรวจ HIV เลยทีเดียว

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องที่นี่