ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ..เอชไอวี

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ..เอชไอวี

เอชไอวี เป็นโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิต ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนักในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่และการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื้อ เอชไอวีจึงเป็นโรคเรื้อรังที่สามารถควบคุมได้

เชื้อไวรัส เอชไอวี ติดต่อกันได้ผ่านการจูบ นี่อาจเป็นจริงได้ในกรณีที่ผู้นั้นมีแผลหรือมีเลือดออกในช่องปากหรือริมฝีปาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วโอกาสการรับเชื้อผ่านการจูบมีน้อยมากๆ

การติดเชื้อเอชไอวีกับโรคเอดส์เหมือนกัน ในปัจจุบันความเจริญด้านการรักษาทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่พัฒนาเป็นโรคเอดส์อีกต่อไป ผู้ป่วยเอชไอวีที่ได้รับการรักษาตั้งแต่ทราบว่าติดเชื้อ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนผู้อื่น

ผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ที่ไม่ติดเชื้อได้ ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังคงสามารถมีเซ็กซ์ที่ปลอดภัยได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย ถ้าผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับการรักษาที่เหมาะสม และผ่านการตรวจสอบปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดแล้ว ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสก็เกือบจะเป็นศูนย์

เชื้อไวรัสเอชไอวีติดต่อไปยังทารกในครรภ์โดยอัตโนมัติ สำนักงานส่งเสริมสุขภาพสตรีในสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการรักษา มีโอกาสแพร่เชื้อไปยังทารกในครรภ์ได้เพียงร้อยละ 2 เท่านั้น แถมยังมีการตรวจเอชไอวีก่อนการวางแผนมีบุตรทุกครั้ง

เชื้อเอชไอวีไม่ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ทางปาก แม้ว่าความเสี่ยงของการได้รับเชื้อ ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ปากจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ความเป็นไปได้ในการได้รับเชื้อนั้นยังมีอยู่ และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในกรณีที่คู่ของคุณมีแผลเปิด เลือดออก หรือแผลถลอก ที่สามารถสัมผัสกับน้ำอสุจิโดยตรง (ข้อมูลจากคณะกรรมการด้านการควบคุมโรคเอดส์แห่งสหรัฐฯ)

เชื้อเอชไอวีสามารถติดต่อได้ผ่านทางน้ำลาย เหงื่อ น้ำตา และการใช้ห้องน้ำร่วมกัน เชื้อเอชไอวีนั้นสามารถแพร่ได้ผ่านน้ำอสุจิ ของเหลวในอวัยวะเพศหญิง เลือด หรือน้ำนมแม่ที่ติดเชื้อเท่านั้น ส่วนน้ำลาย เหงื่อ น้ำตา หากไม่ได้มีเลือดปน ก็ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ และเราสามารถใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์ได้ตามปกติ

ค้นหาสถานที่ตรวจเอชไอวีใกล้บ้านคุณ >> คลิ๊กที่นี่

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องที่นี่

#โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์#HIV#AIDS#เอชไอวี#เอดส์