หากถามความเห็นคนที่มีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่อง ถุงยางอนามัย แต่ละคนก็อาจจะตอบต่างกัน บางคนก็ชอบแบบไม่ใช้ บางคนก็อยากปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งก็ไม่มีความเห็นไหนที่ผิดเพราะสุดท้ายแล้วเพศสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก ใครจะชอบแบบไหนก็สามารถทำได้ตามใจชอบหากมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อจากอีกฝ่าย
แต่ถ้าเราไม่มั่นใจล่ะ? ถ้าคนที่เรากำลังจะมีเพศสัมพันธ์ด้วยยืนกรานว่าไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ในร่างกาย แต่เราไม่รู้จักประวัติหรือสถานะของร่างกายอีกฝ่ายเลย แบบนี้เราควรปล่อยตัวไปตามอารมณ์ หรือควรป้องกันไว้ก่อนดี? ทางเลือก ณ ตอนนั้นจะมีอยู่สองทาง ก็คือ
- เลือกใช้ถุงยางอนามัยตอนมีเพศสัมพันธ์ เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยกับตัวเรามากกว่าและไม่ต้องมากังวลทีหลังว่าจะติดเชื้อใด ๆ หรือ
- ตัดสินใจไม่ใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์ครั้งนั้น และเชื่อใจในตัวคู่นอน ส่วนเรื่องโรคก็ค่อยไปตรวจเอชไอวีหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อรักษาเอาทีหลังถ้าเกิดติดขึ้นมา
ความต่างระหว่างสองวิธีนี้
จะเห็นได้ชัดในเรื่องของความปลอดภัยของตัวคุณเอง ถึงแม้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะรักษาหายได้แทบทั้งหมด หรือบางชนิดเช่น HIV ก็มียาต้านฉุกเฉินที่ป้องกันได้อยู่ แต่ทั้งหมดนี้ล้วนมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่มากกว่าการซื้อถุงยางอนามัยหลายเท่าตัว ถ้ามองกลับกัน ค่ารักษาพยาบาลพวกนี้สามารถตัดทิ้งได้เลยหากคุณเลือกใช้ถุงยางอนามัย นอกจากนี้ถุงยางอนามัยยังสร้างความสบายใจให้ทั้งสองฝ่ายได้ด้วย และยังป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้อีก
หากจะชั่งน้ำหนักกันระหว่างใช้ถุงยางหรือไม่ดี การใช้ถุงยางจะเอนเอียงไปทางความปลอดภัยสูงกว่า และประหยัดกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความรู้สึกที่อาจไม่เหมือนกัน (ส่วนนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามชนิดของถุงยางอนามัยที่เลือก) เทียบกับการไม่ใช้ถุงยางที่เอียงไปทางความรู้สึกและมีแนวโน้มเรื่องค่าใช้จ่ายตามมาที่สูงกว่า
ประโยชน์การใช้ถุงยาง
สุดท้ายแล้วหากมองในแง่มุมเรื่องสุขภาพ ยังไงการใช้ถุงยางก็มีประโยชน์กว่าแน่นอน เพราะนอกจากจะป้องกันโรคได้ ยังประหยัดกว่ากันด้วย และยังช่วยป้องกันการควบคุมโรคในระยะยาวได้หากทุกคนใช้เหมือนกันหมด ทำให้ การใช้ถุงยางกลายเป็นทางเลือกที่ดีไปโดยปริยาย