ยาต้านไวรัสเอชไอวี (Exposure prophylaxis) เป็นยาที่กินเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงโรคอื่น โดยก่อนการรับยาต้องมีการประเมินความเสี่ยงจากประวัติของคนไข้ว่าตรงตามเงื่อนไขการรับยาหรือไม่ และยาในกลุ่มนี้ต้องพิจารณาจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ซึ่งยาต้านไวรัสเอชไอวี มีการใช้ใน 2 ลักษณะ คือ ช่วงก่อน หรือหลังจากมีการสัมผัสเชื้อเอชไอวี โดยยาที่กินเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการติดเชื้อเอชไอวี เรียกว่า ยาเพร็พ (PrEP) และยาที่กินเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีหลังจากสัมผัสเชื้อ เรียกว่า ยาเป๊ป (PEP)
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาเป๊ป
- กินในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีเพศสัมพันธ์แล้วถุงยางอนามัยแตก เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังจากที่มีความเสี่ยงมาแล้ว
- ยาเป๊ปควรใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากสัมผัสเชื้อเอชไอวี ยิ่งใช้เร็ว ประสิทธิภาพในการป้องกันจะยิ่งสูง
- ยาเป๊ปต้องกินติดต่อกัน 28 วัน
- กินให้ครบ 28 วัน หากกินไม่ครบประสิทธิภาพการป้องกันจะลดลง
- ประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 70-80
- ยาเป๊ปไม่ใช่ยารักษาโรคเอดส์ แต่เป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
- ยาเป๊ปมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ฯลฯ
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเป๊ป เพื่อประเมินความเสี่ยง และตรวจหาเชื้อเอชไอวี
- มีสูตรยาหลายสูตรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
- ยาเป๊ปมีจำหน่ายที่โรงพยาบาล คลินิกนิรนาม และสถานพยาบาลบางแห่ง
ยาเป๊ป
ยาเป๊ป (PEP ย่อมาจาก post-exposure prophylaxis) คือ ยาต้านไวรัสฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่เพิ่งสัมผัสเชื้อ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือ สำหรับผู้ไม่ติดเชื้อที่บังเอิญหรือมีความจำเป็น หรือไม่ตั้งใจแต่ไปสัมผัสเชื้อเอชไอวี มาแล้ว โดยต้องกินยาต้านให้เร็วที่สุดหลังสัมผัสเชื้อ เพราะการติดเชื้อเอชไอวีจะเกิดอยู่เฉพาะที่ในตอนแรก โดยการติดเชื้อทั่วร่างกายจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-3 วันหลังการสัมผัส ซึ่งต้องกินยาเป็นเวลา 28 วัน ทำให้มีโอกาสที่เชื้อจะไม่กระจายสู่ร่างกายได้
ความสำคัญของการกินยาเป๊ป
การกินยาเป๊ป จำเป็นต้องกินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ คือ ต้องกินภายในเวลา 72 ชั่วโมง และจะต้องกินอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 28 วัน
- กินให้ตรงเวลา เนื่องจากเชื้อไวรัสเอชไอวี มีโอกาสดื้อยาสูงมาก โดยส่วนใหญ่แพทย์จะจัดให้กิน 8.00 และ 20.00 น. เพราะว่าปริมาณยาในร่างกายจะได้สม่ำเสมอ และพยายามอย่าลืมในแต่ละวัน เพราะจะก่อให้เกิดการดื้อยาเช่นกัน
- อย่าลืมว่ายาต้านไวรัสเอชไอวี ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี และซี ที่มีโอกาสทำให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ในอนาคต
- กินในเฉพาะช่วงที่มีความเสี่ยงได้ เช่น ช่วงที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ และหลังหยุดกินต้องตรวจหาเชื้อเอชไอวี ด้วยเสมอ
- ยาต้านไวรัสส่วนมาก มักมีผลข้างเคียง บางรายอาจมีอาการท้องเสีย ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน และอิดโรย โดยผลข้างเคียงนี้อาจมีอาการรุนแรงในบางราย จนทำให้เป็นสาเหตุของผู้กินยา หยุดยาไปก่อนที่จะกินครบกำหนด
ใครบ้างที่ควรได้รับยาเป๊ป
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ถูกข่มขืน หรือ มีการป้องกันแต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์เช่น ถุงยางหลุด ถุงยางฉีกขาด ฯลฯ
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ หรือ สัมผัสเลือด หรือ ได้รับสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อเอชไอวี
- กินในกรณีที่รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยง เช่น ไม่ใส่ถุงยางอนามัย มีคู่นอนหลายคน
- ไม่ได้สติขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือฤทธิ์ยาบางชนิด
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- บุคคลากรทางการแพทย์ที่เกิดอุบัติเหตุ มีดบาด เข็มตำในโรงพยาบาลจากการทำหัตถการให้คนไข้
- มีการตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ขั้นตอนการรับยาเป๊ป
หากคุณมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเอชไอวี ก่อนที่ผู้รับบริการจะรับยาเป็ป ต้องทำการปรึกษาแพทย์ก่อน โดย
- แพทย์จะซักเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และประวัติ โรคประจำตัว และข้อมูลอื่นๆ เพื่อพิจารณาว่าจำเป็นต้องรับยาเป็ป หรือไม่
- หลังจากแพทย์ประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงสมควรได้รับยา PEP จริง จะต้องมีการเจาะเลือดคนไข้เพื่อตรวจว่าไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี อยู่ก่อนแล้ว รวมถึงตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ และสุขภาพโดยรวม ค่าไตค่าตับของคนไข้ด้วย ว่าพร้อมจะกินยาหรือไม่ ก่อนรับยาเป็ป ทุกราย
- ตรวจการตั้งครรภ์ในรายที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้
- เข้าพบแพทย์ เพื่อเลือกตัวยาที่เหมาะสม
- รับยากลับบ้าน
- หลังจากกินยาครบแพทย์จะนัดคนไข้มาเจาะเลือดเพื่อตรวจเอชไอวี อีกครั้ง
ยาเป๊ป (PEP) รับได้ที่ไหน
การรับยา PEP สามารถเข้ารับบริการได้ตามสถานบริการของรัฐ เอกชน หรือคลินิกเฉพาะทางที่มีแพทย์ประจำ เนื่องจากการรับยาต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์ และจำเป็นจะต้องมีการตรวจเลือดทุกครั้งที่รับยา เพื่อความปลอดภัย และลดผลข้างเคียงที่อาจจะตามมาได้หลังจากการรับยา ซึ่ง ราคายาเป๊ป มีหลายราคาขึ้นอยู่กับชนิดของยา จำนวนบรรจุ เช่น ยาเป๊ป (30 tablets) ซึ่งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200- 20,000 บาท
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
ยาเป๊ปเป็นยาที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังจากสัมผัสเชื้อมาแล้ว แต่ไม่ใช่ยาป้องกันได้ 100% ผู้ใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเพื่อประเมินความเสี่ยง ผลข้างเคียง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม และปลอดภัยสำหรับสุขภาพของคุณ.