Month: July 2020

เริม (Herpes) คืออะไร??

By STD Ka

เริม (Herpes) คืออาการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus) โดยเชื้อไวรัสเริมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เชื้อไวรัสทั้ง 2 ชนิดนี้จะก่อให้เกิดอาการ เริมที่ปาก (Herpes Simplex) และเริมที่อวัยวะเพศ (Gential Herpes) และสามารถติดต่อกันระหว่างคนสู่คนได้โดยผ่านทางการสัมผัสอย่างใกล้ชิด ทางน้ำลาย น้ำเหลือง หรือผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ เริมเป็นโรคผิวหนังที่ …

Read more

เป็นหนองใน ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

หนองใน สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ หนองในแท้ และ หนองในเทียม ใครบ้างที่เสี่ยงติดโรคหนองใน ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อหนองใน คือ การสัมผัสของเหลวในร่างกายของผู้มีเชื้อหนองใน เช่น เยื่อบุช่องคลอด องคชาต ทวารหนัก ช่องปาก ดวงตา ในช่องคอ รวมถึงอาจติดได้จากมารดาสู่ทารกในระหว่างการคลอดได้ ซึ่งปัจจัยหลักๆที่ทำให้เสี่ยงการติดเชื้อโรคหนองในคือ ผู้ที่ไม่มีสวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ผู้ที่เคยติดเชื้อหนองในหรือเคยติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆมาก่อน ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และผู้ที่ติดยาเสพติด ...

Read more

รักสนุกต้องระวังกามโรค!!

“กามโรค” ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ผ่านทั้งทางช่องคลอด ทวารหนักหรือทางปาก เป็นต้น ส่วนใหญ่มักเกิดในวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยเริ่มต้นที่มีความอยากรู้อยากลองในเรื่องเพศมาก โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและโรคร้ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางโรค เมื่อเป็นแล้วมักไม่แสดงอาการใดๆ ให้เห็น ทำให้หลายๆ คนมักไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นอยู่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนตรวจเอชไอวีหรือตรวจโรคต่าง ๆ จนเข้าสู่ภาวะที่รุนแรง และรักษาได้หายขาดยาก เพราะฉะนั้นจึงฝากเน้นย้ำถึง คนที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยให้รีบตรวจเลือดเพื่อเช็คโรคติดต่อทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น ซิฟิลิส เริม ...

Read more

พฤติกรรมเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “กามโรค” ชื่อก็บ่งบอกว่าสามารถติดต่อกันได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดยภาษาอังกฤษจะเรียกว่า STIs ย่อมาจากคำว่า Sexually Transmitted Infection นั่นเอง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นี้จะสามารถส่งต่อเชื้อผ่านทางอวัยวะเพศ ช่องคลอด ทหารหนัก ทางปาก รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อ เช่น เลือด อสุจิ น้ำในช่องคลอด และของเหลวในร่างกายอื่นๆ ด้วย และยังหมายถึงการที่ติดต่อจากแม่สู่ลูก การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ...

Read more

ไวรัสตับอักเสบบี

ไวรัสตับอักเสบบี สามารถถ่ายทอดผ่าน ทางเลือด จากแม่สู่ลูก และการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ปัญหาหลักของผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีคือ ไม่รู้ตัวว่าเป็น หรือตนเองมีพาหะของเชื้อซึ่งสามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ เนื่องจากส่วนน้อยจะแสดงอาการ และปัญหาของผู้ป่วยที่ไม่รู้ตัวนี่เอง เมื่อไปพบแพทย์ด้วยอาการโรคอื่น หากได้รับยาประเภทสเตียรอยด์จะมีฤทธิ์ไปกดภูมิร่างกาย และเมื่อหยุดยา โรคไวรัสตับอักเสบบีก็จะมีความรุนแรงของโรคมากขึ้น ไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร? ไวรัสตับอักเสบบี คือ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี (Hepatitis B: HBV) ซึ่งในทางการแพทย์ได้แบ่งชนิดของเชื้อไวรัสตับอักเสบไว้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นชนิด เอ บี ซี ดี ...

Read more

ถุงยางอนามัย..ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ !!

สวม ถุงยางอนามัย ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดโรคติดต่อที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคหนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส และเอชไอวี วิธีการสวมถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง เมื่อเสร็จกิจแล้วควรถอดถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ เพื่อไม่ให้มีการหกเลอะเทอะ โดยใช้มือดึงออกจากส่วนโคนก่อน ดึงออกอย่างระมัดระวัง และอาจจะใช้กระดาษชำระห่อก่อนนำไปทิ้ง ควรใช้ถุงยางอนามัยเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากจะมีเพศสัมพันธ์อีกรอบควรเปลี่ยนอันใหม่ เนื่องจากประสิทธิภาพของการป้องกันโรคจะลดลงหากใช้อันเดิม เก็บถุงยางอนามัยไว้ให้พ้นแสงแดดหรือที่ร้อนชื้น และควรตรวจเช็ควันหมดอายุก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง ค้นหาสถานที่ตรวจเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใกล้บ้านคุณ > > > คลิ๊กที่นี่ ...

Read more

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ..เอชไอวี

เอชไอวี เป็นโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิต ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนักในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่และการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื้อ เอชไอวีจึงเป็นโรคเรื้อรังที่สามารถควบคุมได้ เชื้อไวรัส เอชไอวี ติดต่อกันได้ผ่านการจูบ นี่อาจเป็นจริงได้ในกรณีที่ผู้นั้นมีแผลหรือมีเลือดออกในช่องปากหรือริมฝีปาก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วโอกาสการรับเชื้อผ่านการจูบมีน้อยมากๆ การติดเชื้อเอชไอวีกับโรคเอดส์เหมือนกัน ในปัจจุบันความเจริญด้านการรักษาทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่พัฒนาเป็นโรคเอดส์อีกต่อไป ผู้ป่วยเอชไอวีที่ได้รับการรักษาตั้งแต่ทราบว่าติดเชื้อ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนผู้อื่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ที่ไม่ติดเชื้อได้ ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังคงสามารถมีเซ็กซ์ที่ปลอดภัยได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย ถ้าผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับการรักษาที่เหมาะสม และผ่านการตรวจสอบปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดแล้ว ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสก็เกือบจะเป็นศูนย์ เชื้อไวรัสเอชไอวีติดต่อไปยังทารกในครรภ์โดยอัตโนมัติ สำนักงานส่งเสริมสุขภาพสตรีในสหรัฐฯ ...

Read more